บราซิลและเม็กซิโกยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในบราซิลพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แล้ว

ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในบราซิลยังพุ่งไม่หยุดล่าสุดพุ่งเกินกว่า 34,000 คนไปแล้ว แซงหน้าอิตาลีขึ้นมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐ และอังกฤษ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 616,000 คนมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ ขณะที่บราซิลยังขาดความเป็นเอกภาพในการกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด เวลานี้ทางการท้องถิ่นบางแห่งได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มมากขึ้น ในขณะที่บางแห่งกลับทยอยผ่อนปรนมาตรการทั้งๆ ที่ยังมีการแพร่ระบาดรุนแรง

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มประชากรชนเผ่าของบราซิลก็น่าเป็นห่วง เนื่องจากการแพร่ระบาดลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่การเข้าถึงการรักษาในโรงพยาบาลของประชากรชนเผ่าก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากและซับซ้อน เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมายอดตายจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มประชากรชนเผ่าเพิ่มจาก 28 คน เป็น 182 คน

ขณะที่เม็กซิโกเป็นอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคลาตินอเมริกาที่มีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 1,000 คน ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วราว 106,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 12,500 คน ประธานาธิบดีมานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ เรียกร้องให้ประชาชนอย่าออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็นแต่ก็เน้นย้ำว่าอย่าตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดของโรค

ส่วนที่อาร์เจนตินา ประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซ ประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปจนถึงวันที่ 28 เดือนนี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แต่จะอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กในกรุงบัวเนสไอเรสเริ่มเปิดดำเนินการได้ภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 20,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 608 คน

ข้ามไปที่ฝั่งยุโรปซึ่งขณะนี้หลายประเทศสถานการณ์ดีขึ้นและเริ่มเปิดประเทศกันแล้ว แต่การแพร่ระบาดในอังกฤษยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดรัฐมนตรีขนส่งประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 15 เดือนนี้ ผู้โดยสารระบบขนส่งสาธารณะจะต้องสวมหน้ากากผ้าทุกคนยกเว้นเด็กเล็กและผู้ที่ปัญหาเรื่องการหายใจ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 280,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 40,000 คน มากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ